มาต่ออีก 5 ข้อที่เหลือจากบทความเมื่อวานกันนะครับ
- สิ่งที่น่าตกใจก็คือประมาณ 34% ของขโมยจะเข้าบ้านของคุณทางประตูหน้าบ้าน
พวกเขากำลังจะมาขโมยของพวกเขาคงไม่อายหรอกที่จะเอกใช้ทางเข้าบ้านหลักของคุณอย่างประตูหน้าบ้าน! ทิป ง่ายๆสำหรับข้อนี้ก็คือคุณควรจะหาไม้มาวางไว้ตรงข้อบานพับประตูเพื่อใก้มันแข็งแรงขึ้นและไม่ง่ายมากที่จะถีบให้ประตูพัง หรือเปลี่ยนประตูคุณเป็นประตูเหล็กมันซะเลย แต่ถ้าจะให้ดีผมแนะนำให้ติด เครื่องตรวจจับความเคลื่อนไหว ที่จะดังแทบจะทันทีที่มีขโมยมาป้วนเปี้ยนอยู่หน้าบ้านของคุณ
- ขโมยมักจะเลือกพุ่งไปที่ห้องนอนใหญ่ของคุณก่อนเสมอ
ปกติแล้วเวลาเราอยู่ในบ้านที่เรา “เชื่อ” ว่าเราล็อคแน่นหนาแล้วเราก็จะไม่ค่อยเก็บของให้ปลอดภัยหรือวางของมีค่าไว้โดดๆอย่างนั้นใช่มั้ยล่ะครับ ซึ่งเป็นข้อที่ขโมยทุกคนจะ “รู้อยู่แล้ว” ซึ่งมันทำให้พวกเขาเลือกที่จะไปเข้าห้องนอนใหญ่ของคุณ่ก่อนเป็นที่แรกเพราะนั่นเป็นที่ๆเราเลือกจะเก็บของมีค่าไว้ใช่มั๊ยล่ะ!
- ในสหรัฐอเมริกามีค่าความเสียหายจากการโดนขโมยเฉลี่ยประมาณ 50,000 บาทต่อครั้ง
ในปี 2014 FBI ได้ออกมาระบุว่าค่าความเสียหายจากการขโมยอยู่ที่ 3.9 พันล้านเหรียญสหรัฐหรือคิดเป็นเงินบ้านเราก็อยู่ที่ประมาณ 138,000 ล้านบาท! ซึ่ง 75% ของการขโมยจะเกิดขึ้นในตัวเมืองหรือที่ๆมีบ้านอยู่เยอะๆ
ทิปเล็กๆ ในข้อนี้คือ ในสมัยนี้สัญญาณกันขโมยใช่สิ่งที่แพงอีกต่อไป ซึ่งสัญญาณกันขโมยในสมัยนี้มีตั้งแต่ราคาห้าร้อยกว่าบาทถึงเป็นแสนๆ ซึ่งเราต้องเลือกสิ่งที่เหมาะกับขนาดบ้านและจำนวนจุดบุกรุกของบ้านเรา การที่มีระบบรักษาความปลอดภัยในราคาไม่ถึงพันก็ยังดีกว่าเสี่ยงโดนขโมยของเป็นหมื่นๆใช่มั๊ยล่ะครับ
- ในการขโมย 10 ครั้ง “ขโมย” จะเจอคนอยู่ในบ้านประมาณ 3 ครั้ง
การที่เรากลับบ้านมาแล้วพบว่าสิ่งของๆเราโดนขโมยไปก็น่ากลัวไม่น้อยแล้วใช่มั๊ยล่ะครับ แต่มันต่างกันอย่างสิ้นเชิงเมื่อ ขโมย เข้าบ้านมาตอนที่มีคนอยู่ในบ้าน! ซึ่งคนที่อยู่ในบ้านจะพบความกลัวในเรื่องของการทำร้ายร่างกายจากขโมย ซึ่งตามสถิติแล้ว ขโมยจะเจอคนอยู่ในบ้านประมาน 28% ซึ่ง 7% ในนี้ต้องเจอกับการทำร้ายร่างกาย
- มีขโมยแค่ 13.6% ที่โดนจับกุม
โดยส่วนมากแล้วคดีขโมยของเป็นคดีที่ยากจะแก้เพราะต่อให้ตำรวจไปจับกุมขโมยได้ก็ตาม มันไม่สามารถการันตีอะไรได้ลเยว่าสิ่งของๆคุณที่ถูกขโมยไปจะได้กลับคืนมาไม่ว่าจะในรูปของทรัพสินหรือว่าเงินทอง
การป้องกันที่ดีที่สุดในคดีขโมยของก็คือการมีกล้องวงจรปิดครับ ยิ่งเป็นกล้องที่สามารถดูผ่านสมาร์ทโฟนหรือโน้ทบุ้คของคุณได้ยิ่งดี เพราะนั่นทำให้คุณสามารถดูบ้านของคุณได้ตลอดเวลาจากอุปกรณ์พกพาพวกนี้ครับ ในปี 2014 เมืองแมสชาชูเซต มีบ้านหลังหนึ่งถูกขโมยสองคนขึ้นบ้านซึ่งเจ้าของบ้านบังเอิญเปิดแอพดูวงจรปิดที่บ้านของเขาพอดี นั่นทำให้เขาโทรหาตำรวจได้ทันและไม่เสียทรัพสินใดๆไปเลยครับ
สถิติพวกนี้สดงให้เห็นถึงความอันตรายจากการโดนขโมยมากใช่มั๊ยล่ะครับ มันไม่ยากและไม่แพงเลยที่จะหาระบบรักษาความปลอดภัยมาติดที่บ้านสักหน่อยเพราะนอกจากสมัยนี้ที่ราคามันจะไม่แพงแล้วมันยังทำให้คุณมีโอกาสโดนขโมยน้อยลงไปเยอะอีกด้วยล่ะครับ