blog

สัญญาณเตือนไฟไหม้

สัญญาณเตือนไฟไหม้

               โจรขึ้นบ้าน 10 ครั้ง ไม่เท่าไฟไหม้ครั้งเดียว หมดเนื้อหมดตัว ประโยคนี้คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้น เหตุการณ์ไฟไหม้ในแต่ละปี สร้างความเสียหายไม่น้อยให้กับเจ้าของบ้าน เจ้าของกิจการ และในแต่ละปีก็มีเหตุการณ์ไฟไหม้เกิดขึ้นบ่อยมาก และในบางกรณีที่ไฟไหม้แบบไม่เหลือซากให้เห็น นั่นคือ ไม่มีระบบสัญญาณเตือนไฟไหม้ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่จำเป็นมากสำหรับบ้านที่อยู่อาศัย หรือแม้กระทั่งโรงงาน บริษัท ห้าง ร้านต่างๆ เพราะสัญญาณเตือนไฟไหม้ สามารถแจ้งให้เราทราบทันท่วงที ก่อนที่ไฟจะลามมากขึ้นจนสร้างความเสียหาย

สัญญาณเตือนไฟไหม้
ติดตั้งเพื่อให้รับมือทันกับเหตุการณ์ไฟไหม้ที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดเหตุ

สัญญาณเตือนไฟไหม้ คือ

ระบบที่แจ้งเตือนเมื่อเกิดเปลวไฟ หรือเพลิงไหม้ขึ้น ภายในอาคาร บ้าน สำนักงาน ติดตั้งเพื่อให้รับมือทันกับเหตุการณ์ไฟไหม้ที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดเหตุ อีกทั้งยังสามารถช่วยชีวิตผู้คน รวมถึงป้องกันการเสียหายของทรัพย์สินได้ โดยจะมีตัวเซนเซอร์ หรืออุปกรณ์ตรวจจับชนิดต่างๆที่แตกต่างกันออกไป ตามความเหมาะสมของแต่ละสถานที่ ซึ่งเมื่ออุปกรณ์ตรวจจับสิ่งผิดปกติได้ ก็จะทำการส่งสัญญาณไปยังตู้ควบคุม และระบบจะทำการแจ้งเหตุผ่านในรูปแบบของเสียงหรือแสง ตัวอย่างของอุปกรณ์ดังกล่าว เช่น

-อุปกรณ์ตรวจจับควันไฟ ( Smoke Detector)  

-อุปกรณ์ตรวจจับความร้อน ( Heat Detector)

-อุปกรณ์แจ้งเพลิงไฟไหม้ด้วยมือผู้ใช้ ( Manual Pull Station )

-อุปกรณ์ตรวจจับความร้อนชนิดรวม ( Combination Heat Detector )

-อุปกรณ์ตรวจจับเปลวไฟ ( Flame Detector )

หน้าที่ของอุปกรณ์แต่ละชนิดทำหน้าที่อย่างไรกันบ้าง

อุปกรณ์ตรวจจับควันไฟ ( Smoke Detector)

               เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ในแต่ละครั้ง สิ่งแรกที่จะเกิดขึ้นก็คือควัน โดยปกติควันมักจะลอยตัวขึ้นสูงเสมอ ดังนั้นอุปกรณ์ตรวจจับควันไฟนี้จะคอยตรวจจับอนุภาคของควันไฟที่ลอยเข้ามาในเครื่อง หากอนุภาคของควันลอยเข้าไปขัดขวางการทำงานของวงจรไฟฟ้าจนเกินค่าที่กำหนด อุปกรณ์ตรวจจับควันก็จะส่งสัญญาณต่อไปที่ตู้ควบคุม เพื่อแจ้งเหตุต่อไป

อุปกรณ์ตรวจจับความร้อน ( Heat Detector)

               เมื่อสถานที่ตรงจุดเกิดเหตุนั้นมีอุณหภูมิที่สูงขึ้นเกิดกว่ากำหนด อุปกรณ์ตรวจจับความร้อนก็จะส่งสัญญาณไปที่ตู้ควบคุมเพื่อแจ้งเหตุ การทำงานจะคล้ายๆกับอุปกรณ์ตรวจจับควันเลยก็ว่าได้ ซึ่งอุปกรณ์ตรวจจับควันนี้มีอยู่หลายรูปแบบ เช่น

-Rate of Rise คือการตรวจจับความร้อนตามอัตราการเพิ่มของอุณหภูมิ เช่น ถ้าภายใน 1 นาที มีอุณหภูมิห้องที่เกินปกติ ก็จะมีการส่งสัญญาณไปที่ตู้ควบคุม

-Fixed Temperature เป็นอุปกรณ์ที่ตรวจจับความร้อนชนิดอุณหภูมิคงที่ ถ้าอุณหภูมิบริเวณนั้นๆมีจุดสูงสุดของเซนเซอร์ที่ได้ตั้งไว้ ก็จะทำการส่งสัญญาณไปยังตู้ควบคุม เช่นถ้าเราตั้งไว้ที่อุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียส ถ้าอุณหภูมิดังกล่าวเกิน ก็จะทำการส่งสัญญาณไปยังตู้ควบคุมนั้นทันที          

-Mechanical Heat detector เป็นการผสมผสานกันระหว่าง Rate of Rise และ Fixed Temperature

อุปกรณ์แจ้งเพลิงไฟไหม้ด้วยมือผู้ใช้ ( Manual Pull Station )

               ใช้สำหรับแจ้งเตือนไฟไหม้โดยใช้การดึงหรือกดปุ่ม เพื่อให้ระบบทำการแจ้งเตือนและทำการอพยพผุ้คนออกจากอาคารได้ทันท่วงที ซี่งโดยหลักๆแล้วจะมี 2 แบบ คือ แบบดึง และแบบปุ่มกด   

อุปกรณ์ตรวจจับความร้อนชนิดรวม ( Combination Heat Detector )

               อุปกรณ์ชนิดนี้เป็นการรวมคุณสมบัติต่างๆของ Rate of Rise และ Fixed Temperature เข้ามาอยู่ในตัวเดียวกันเพื่อตรวจจับความร้อนที่เกิดขึ้นได้ไม่ว่าจะเป็นลักษณะใดก็ตาม

อุปกรณ์ตรวจจับเปลวไฟ ( Flame Detector )

               โดยปกติอุปกรณ์ตัวนี้จะนำไปใช้ในบริเวณพื้นที่ที่อันตรายและมีความเสี่ยงในการเกิดเพลิงไหม้สูง เช่น โรงงานอุตสาหกรรม , คลังจ่ายน้ำมัน  , บริเวณเก็บวัตถุไวไฟ หรือบริเวณที่ง่ายต่อการระเบิดได้ง่าย ซี่งอุปกรณ์ตรวจจับเปลวไฟนี้ จะใช้คลื่นความถี่ในการดักจับ ในย่านอัลตราไวโอเลต ซึ่งมีคลื่นความยาวอยู่ที่ 0.18-0.636 ไมครอนที่แผ่ออกมาจากเปลวไฟเท่านั้น แสงสว่างที่เกิดขึ้นจากหลอดไฟและแสงอินฟราเรดจะไม่มีผลต่อทำให้เกิด Fault Alarm ได้

ตู้ควบคุม ( Fire alarm control panel )

               เป็นจุดศูนย์รวมการทำงานของระบบ เพราะต้องคอยรับสัญญาณจากอุปกรณ์ตรวจจับควันไฟ และอุปกรณ์ตรวจจับความร้อน และส่งสัญญาณเมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ ไปยังอุปกรณ์สัญญาณแจ้งเตือนที่ติดไว้ตามจุดต่างๆ ตั้งแต่เกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นแรกๆ

กริ่งสัญญาณแจ้งเตือน ( Bell )

               เป็นอุปกรณ์ที่คอยแจ้งเตือนเมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ ซึ่งจะทำหน้าที่รับคำสั่งมาจากตู้ควบคุมอีกที อุปกรณ์เหล่านี้จะวางแผนอพยพและระงับเหตุได้ทันเวลา และยังช่วยลดอัตราการสูญเสียชีวิต รวมถึงทรัพย์สินอีกด้วย เมื่อเรารู้ว่าอุปกรณ์แต่ละชนิดทำงานยังไงแล้ว เรามาดูขั้นตอนการทำงานของระบบแบบง่ายๆ

ขั้นตอนการทำงานของระบบ

อุปกรณ์ตรวจจับควันไฟ ( Smoke Detector) หรือความร้อนได้ ( Heat Detector )          ก็จะส่งสัญญาณไปยังตู้ควบคุม ( Fire Alarm Control Panel ) จากนั้น          ตู้ควบคุมจะส่งสัญญาณแจ้งเหตุผ่านอุปกรณ์ กระดิ่ง ไฟสัญญาณ หรือไซเรน เพื่อให้ผู้ที่อยู่อาศัยภายในพื้นที่นั้นได้รับรู้ว่ามีเหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้น

ปัจจัยในการออกแบบระบบเตือนสัญญาณเตือนไฟไหม้ ต้องพิจารณาดังนี้

1.ความสูงของเพดาน มีผลต่อจำนวนอุปกรณ์ตรวจจับที่ต้องใช้พื้นที่ ความร้อนหรือควันที่ลอยขึ้นมาอุปกรณ์ตรวจจับควันที่ติดตั้งไว้บนเพดาน

2.สภาพแวดล้อมต่างๆ เช่น อุณหภูมิ ลม ฝุ่น ไอน้ำ วัสดุสิ่งบดบังต่างๆ ณ สถานที่นั้นๆ ซี่งมีผลต่อการเลือกอุปกรณ์ในการใช้งาน

3.ระดับความสำคัญและความเสี่ยง ควรเลือกใช้อุปกรณ์ที่ตรวจจับได้ไวที่สุด เพื่อให้รับรู้ถึงเหตุเพลิงไหม้ได้ทันเวลา ก่อนที่จะลุกลามใหญ่โต

4.เงินงบประมาณที่ตั้งไว้ ซี่งงบลงทุนนี้ก็มีผลต่อการเลือกอุปกรณ์ตรวจจับ และมีข้อจำกัดในการที่จะเลือกอุปกรณ์ที่ดี และมีประสิทธิภาพด้วยเช่นกัน

               นี่คือส่วนประกอบคร่าวๆซึ่งเป็นเพียงองค์ประกอบของระบบแจ้งสัญญาณเตือนไฟไหม้เบื้องต้นเท่านั้น และระบบการทำงานของอุปกรณ์ชนิดต่างๆ เพื่อให้เราทราบถึงความสำคัญของสัญญาณเตือนไฟไหม้ อย่างน้อยเราก็สามารถป้องกันเหตุไฟไหม้ได้ทันท่วงที


สนใจสินค้าเพิ่มเติมได้ที่นี่ สัญญาณเตือนไฟไหม้ สำหรับที่อยู่อาศัย หรือติดต่อได้ที่ Line

โทรติดต่อ : Phone: (+66) 2-240-1331

C-CURITY สัญญาณกันขโมย อุปกรณ์รักษาความปลอดภัย ครบวงจร